เจ้าของบล็อกนี้หวังว่าจะมีคนสนใจในการเรียนรู้ดนตรีและหวังว่าบล็อกนี้จะเป็นความรู้ให้กับคนที่สนใจในด้านดนตรี

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ประเภทของเครื่องดนตรีสากล (เครื่องลมไม้ Woodwind Instruments)

ประเภทของเครื่องดนตรีสากล (Music Instruments)

หลายๆคนนะครับที่รู้จักเครื่องดนตรีแต่วันนี้ผมจะมาพูดถึงเครื่องดนตรีต่างๆกันนะครับว่ามีกี่ประเภทและมีอะไรบ้าง เครื่องดนตรีคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้งเพื่อทำให้เกิดเสียงตามที่ต้างการ แล้วยังสามารถบอกได้ถึง อารมณ์ สามารถบอกได้ถึงความรู้สึกต่างๆได้ และเครื่องดนตรีนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท
1.เครื่องสาย (String Instruments)
2.เครื่องลมไม้ (Woodwind Instrument)
3.เครื่องลมทองเหลือง (Brass Instruments)
4.เครื่องลิ้มนิ้ว ( Keyboard Instruments)
5.เครื่องกระทบ (Percussion Instruments)


ประเภทที่สอง : เครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments)

ในปัจจุบันมีเครื่องดนตรีหลายเครื่องที่ไม่ได้ทำด้วยไม้ เนื่องจากไม้หายาก จึงใช้วัสดุอย่างอื่นสร้างขึ้น เครื่องดนตรีกลุ่มเครื่องลมไม้ ยังแบ่งได้อย่างกว้าง ๆ เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทเป่าลมเข้าไปในรูเป่า(Blowing into a tube) ลำตัวมีลักษณะเป็นท่อ เครื่องเป่าประเภทนี้มีลิ้นอยู่ข้าง และประเภทเป่าลมให้ผ่านลิ้น (Blowing through a reed) เครื่องลมไม้ประเภทขลุ่ย ยังแบ่งตามลักษณะของการเป่าได้ 2 ประเภทคือ ประเภทเป่าตรงปลายและประเภทเป่าด้านข้าง 

ประเภทที่หนึ่งประเภทเป่าลมเข้าไปในรู (Blowing in to tube)

ลำตัวมีลักษณะเป็นท่อ แบ่งตามลักษณะของการเป่าได้ 2 ประเภทคือ ประเภทเป่าตรงปลาย เช่น ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ และประเภทเป่าลมเข้าทางด้านข้าง

1.ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ (Recorder) 

เป็นเครื่องเป่าดนตรีสากลจัดอยู่ในประเภทเครื่องเป่าลมไม้ชนิดไม่มีลิ้น เป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็ก โครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน





















2..ฟลูต (Flute) 

 ฟลูตเป็นขลุ่ยเป่าด้านข้าง มีความยาว 26 นิ้วมีช่วงเสียงตั้งแต่ C กลางจนถึง C สูงขึ้นไปอีก 3 ออคเทฟ เสียงแจ่มใสจึงเหมาะสำหรับเป็นเครื่องดนตรีประเภทเล่นทำนองใช้เลียนเสียงนกเล็ก ๆ ได้ดีและเสียงต่ำของฟลูตจะให้เสียงที่ นุ่มนวล


















3.ปิคโคโล (Piccolo) 

เป็นขลุ่ยขนาดเล็กมีลักษณะเช่นเดียวกับฟลูตแต่เล็กกว่าทำมาจากไม้  แต่ปัจจุบันทำด้วยโลหะ ยาวประมาณ 12 นิ้ว เสียงเล็กแหลมชัดเจน แม้ว่าจะเป่าเพียง เครื่องเดียว พิคโคโลเล่นได้ดีเป็นพิเศษโดยเฉพาะการทำเสียงรัว (Trillo) และการบรรเลงเดี่ยว (Solo)














ประเภทที่สองประเภทเป่าลมให้ผ่านลิ้นของเครื่องดนตรี

(Blowing through a reed)

เครื่องเป่าลมไม้ประเภทปี่ ส่วนประกอบที่สำคัญคือมีลิ้น (Reed) เป็นตัวสั่นสะเทือน ส่วนที่เป็นลิ้นจะอยู่ตรงปลายด้านหนึ่งของปี่ เมื่อเป่าลมผ่านลิ้นให้เกิดการสั่นสะเทือน ลมจะเข้าไปในท่อซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงหรือตัวกำทอน แล้วออกไปยังปากลำโพง เครื่องดนตรีพวกปี่ยังจำแนกออกได้ตามลักษณะของลิ้นที่ใช้ เป็นประเภทลิ้นคู่ (Double reed) และลิ้นเดี่ยว (Single reed)





ประเภทลิ้นเดี่ยว

1.คลาริเนต (Clarinet) 

เป็นเครื่องดนตรีที่รู้จักกันแพร่หลายกว่าเครื่องอื่นๆในบรรดาเครื่องลมไม้ด้วยกันคลาริเนตเป็นเครื่อดนตรีที่ใช้ได้ในวงดนตรีเกือบทุกประเภทและเป็นเครื่องดนตรีที่ำสำคัญในวงออร์เคสตราวงโธวาทิตและวงแจ๊ส





2.แซกโซโฟน (saxophone) 

เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเดี่ยวเหมือนของคลาริเนต แม้ว่าตัวเครื่องมักจะทำด้วยโลหะแต่สุ้มเสียงก็กระเดียดมาทางเครื่องลมไม้ แซกโซโฟนจึงได้รับฉายาว่า “คลาริเนตทองเหลือง” (brass clarinet)

















ประเภทลิ้นคู่

1.โอโบ (oboe) 

เป็นเครื่องดนตรีเสียงสูงในกลุ่มเครื่องลมไม้ ซองในขณะนั้นมีรูปิดเปิดเพียง 2- 3 รูเท่านั้น ในศตวรรษที่ 19 โอโบได้พัฒนาในเรื่องระบบกลไก คีย์ กระเดื่อง สำหรับปิดเปิดรู เพื่อเปลี่ยนระดับเสียงให้เล่นสะดวกมากขึ้น จนในที่สุดโอโบ คือ                                                                                          เครื่องดนตรีหลักที่จะต้องมีใน วงออร์เคสตร้า

..




2.บาสซูน (Bassoon) 

เป็นปี่ขนาดใหญ่ใช้ลิ้นคู่เช่นเดียวกับโอโบ รูปร่างของบาสซูนค่อนข้างจะประหลาดกว่าปี่ชนิดอื่น ๆ ได้รับฉายาว่าเป็น “ตัวตลกของวงออร์เคสตรา” (The Clown of the Orchestra) ทั้งนี้เพราะเวลาบรรเลงเสียงสั้น ๆ ห้วน ๆ (Staccato) อย่างเร็ว ๆ จะมีเสียงดัง ปูด…ปู๊ด… คล้ายลักษณะท่าทางของตัวตลกที่มีอากัปกริยากระโดดเต้นหยอง ๆ ในโรงละครสัตว์

















วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ประเภทของเครื่องดนตรีสากล (เครื่องสาย String Instruments)

ประเภทของเครื่องดนตรีสากล (Music Instruments)

หลายๆคนนะครับที่รู้จักเครื่องดนตรีแต่วันนี้ผมจะมาพูดถึงเครื่องดนตรีต่างๆกันนะครับว่ามีกี่ประเภทและมีอะไรบ้าง เครื่องดนตรีคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้งเพื่อทำให้เกิดเสียงตามที่ต้างการ แล้วยังสามารถบอกได้ถึง อารมณ์ สามารถบอกได้ถึงความรู้สึกต่างๆได้ และเครื่องดนตรีนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท
1.เครื่องสาย (String Instruments)
2.เครื่องลมไม้ (Woodwind Instrument)
3.เครื่องลมทองเหลือง (Brass Instruments)
4.เครื่องลิ้มนิ้ว ( Keyboard Instruments)
5.เครื่องกระทบ (Percussion Instruments)
                                      
                          ประเภทแรกคือ "เครื่องสาย (String Instruments)
เป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทือนของสายลวด เชือก เอ็น หรือไนลอน และมีตัวกำธรเสียง ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังมากขึ้น คุณภาพของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัตถุที่ใช้ทำ การสั่นสะเทือนของสายอาจทำได้โดยการสี หรือ ดีดโดยอาจกระทำโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ยุ่งยากขึ้น เครื่องสายที่พบเห็นในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีทำให้เกิดเสียงได้ 2 วิธี คือ วิธีสี และวิธีดีด 

ประเภทแรกเครื่องสายที่ใช้คันสี



1.ไวโอลิน (Violin)




ไวโอลินคันหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยแผ่นไม้หลายชิ้น แต่ละชิ้นเลือกมาจากไม้ชนิดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นส่วนต่าง ๆ ไวโอลินประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง G-D-A-E ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง (Melodic Instrument) มีเสียงแหลมสดใส ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีถ้าต้องการจะเล่นให้เสียงหวาน เศร้า ก็ทำได้ โดยใช้เทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ












2. วิโอล่า (Viola)



มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลินประมาณหนึ่งในห้า วิโอลาประกอบด้วยสาย 4 สาย ตั้งเสียงต่ำกว่าไวโอลินลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่าไวโอลิน แต่ไม่มีบทบาทเด่นเหมือนไวโอลิน 






3.เชลโล่ (cello)

 มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่ามากขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างหันหน้าเครื่องออก เทคนิคการเล่นเหมือนกับไวโอลินสายทั้งสี่เสียงต่ำกว่าวิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A เสียงของเชลโลนุ่มนวล แสดงอารมณ์เศร้าสร้อย
















4.ดับเบิลเบส (Double Bass)

เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน มีความยาวประมาณ 74 นิ้ว ผู้บรรเลงต้องยืนเล่น เสียงของดับเบิลเบส ต่ำสุดแสดงถึงความมีอำนาจ ความกลัว ความลึกลับ สายทั้งสี่ตั้งเสียงห่างกันเป็นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E- A- D- G






.








2 .เครื่องสายประเภทเครื่องดีด


1.ฮาร์พ (Harp)





ฮาร์พมีลักษณะเป็นโครงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านบนโค้งงอสวยงาม มีสายขึงอยู่ทั้งหมด 47 สาย ช่วงเสียงกว้าง 6 ? Octaves บันไดเสียงพื้นฐานของฮาร์พเป็น Cb Major ที่ฐานของฮาร์พ จะมีกระเดื่อง 7 อัน สำหรับเหยียบ (ประจำทั้ง 7 เสียง) ถ้าเหยียบจมลงครั้งหนึ่งสายจะดึงขึ้นทำให้เสียงสูงขึ้นครึ่งเสียง ถ้าเหยียบอีกเป็นครั้งที่สองสายจะตึงขึ้นอีกทำให้เสียงสูงขึ้นอีกทำให้ผู้เล่น เล่นเพลงได้ทุกบันไดเสียง

















2. ลูท (Lute)

เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเภทดีด ลูทมีรูปทรงเหมือนผลส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกันมากแต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม
















3.แมนโดลิน (Mandolin)

เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย 4 คู่ (8สาย) หรือ 6 คู่ (12สาย) ตั้งเสียงเท่ากันเป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม (Feat) รองรับสาย เวลาเล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจับตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด ลักษณะการดีดคล้ายการดีดกีตาร์โดยใช้ปิ๊ค (Pick) เสียงที่เกิดจากแมนโดลินมีความไพเราะเป็นเสียงที่มีคุณภาพ เร้าอารมณ์ได้ดีโดยเฉพาะอารมณ์โศกเศร้าเกี่ยวกับความรัก





















4.แบนโจ (Banjo)

เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก (Western Africa) เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลายในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่นคล้ายกับกีตาร์